Wednesday, September 5, 2012

วันนี้คุณบอกรัก "คนที่คุณรัก" และ "คนที่รักคุณ" แล้วหรือยัง?



อยู่กับความชินชา ปล่อยให้วันเวลา ค่อยค่อยผ่าน ผ่าน ผ่าน พ้นไป
ตราบที่ยังมีเธอ เมื่อหันไปยังเจอ ทุกทุกอย่างก็ยังมั่นใจ
คำว่ารัก สักคำ ก็เก็บไว้เรื่อยมา รอเวลาพูดไป
วันพรุ่งนี้ หรือสักวันหนึ่งข้างหน้ายังมีเวลามากมาย

แต่ว่าบางคำลา มันก็เดินทางมา ทั้งที่ไม่ได้เตรียมหัวใจ
หลับตาลงเบาเบา เพียงแค่เราลืมตา ทุกทุกอย่างก็จางหายไป
ไม่ว่ารอยยิ้มเดิม อ้อมกอด หรือคืนวัน กลายเป็นควันง่ายดาย
วันพรุ่งนี้ ไม่เคยมี และไม่เคยมา ไม่ว่าเมื่อใด

กอดเธอเบาเบาแล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู...
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที...พรุ่งนี้ไม่มีจริง

อยากกุมมือเธอมา อยากให้เธอมองตา ซุกในกอดอุ่นอุ่นหัวใจ
บอกกับเธอซ้ำซ้ำ บอกทุกทุกถ้อยคำ ทุกนาทีที่ผ่านพ้นไป
อยู่กับเธอให้นาน เท่านาน ไม่ยอมมีวันที่ห่างร้างไกล
แต่พรุ่งนี้ ไม่เคยมี และไม่เคยมา ไม่ว่าเมื่อใด

กอดเธอเบาเบาแล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู...
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที...
เศษความทรงจำสัก เสี้ยวเวลา ก็เอาคืนมาไม่ได้
รักให้มากเท่าไร ไม่ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที...พรุ่งนี้ไม่มีจริง

หยิบเอามาเพ้อกันเสียหน่อยกับเพลงใหม่ล่าสุดของปาน
เป็นเอ็มวีที่ทำให้นึกถึงคนที่เรารักและคนที่รักเราได้มากทีเดียว

ดูจบแล้ว...ใครที่ยังเหลือคนที่รักเรา ก็อย่าลืมบอกรักเขาบ้าง
เพราะว่า...
"ถ้าหากรักนี้ ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว...แล้วเขาจะรู้ว่ารักหรือเปล่า?"
...นอกจากจะพูดจะกล่าวกันแล้ว ที่อยากให้ทำที่สุดคือ "แสดงออก" ให้เห็นถึงความรักที่เรามีให้ หรือคำขอบคุณที่เราอยากบอกเขา ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวเป็นลูกที่ดี เป็นคนรักที่ดี...

การแสดงออกถึงความรัก ความเอาใจใส่ มันไม่ได้สำคัญที่จะต้องมาพร้อมวันสำคัญหรืองานเทศกาลต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมากับของขวัญราคาเป็นหมื่นเป็นแสน...
...เพียงแค่กลับบ้าน แล้วกอดและหอม มันคงไม่ยากเกินไป...

...หากยังมีวันนี้...ก็จงทำมันเสียวันนี้...
...อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านไป...
...เพราะบางที พรุ่งนี้อาจจะไม่มีอยู่ก็ได้...

ลดน้ำหนักกันเถอะ!!

เคยสังเกตไหมว่าคนที่ทักเราทุกทีว่าอ้วนเนี่ย...มักจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่คอยเชียร์ให้เรากินเยอะๆ (ตกลงจะให้กินหรือไม่ให้กินกันแน่นิ)

ปัญหาส่วนใหญ่ของหนุ่มสาวชาวไทยในสมัยนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องๆ เงินๆ ทองๆ หรือสามีเราแต่ภริยาคนอื่นแล้วเนี่ย ก็หนีไปไม่พ้นเรื่อง "อ้วน"

ทำไมถึงอ้วน??
เริ่มแรกเลย ดูว่าในแต่ละวันเรากินอะไรไปบ้าง แล้วเราทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง เช่นถ้าวันๆ นึงคุณไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งออฟฟิศ รับโทรศัพท์ พิมพ์งาน เดินเอกสารเล็กๆ น้อยๆ แต่กลับกินดีอยู่ดี เช้าก็ปาท่องโก๋จิ้มนมข้นกับกาแฟใส่นมสักแก้ว มื้อเที่ยงก็จัดใหญ่เป็นสุกี้ ซูชิ พิซซ่า ฯลฯ ก่อนจะตกเยนก็มีของว่างยามบ่ายไว้แก้เหงาปากอีกสักหน่อย แน่นอนว่าพอเย็นก็มีจัดอีกชุดหนึ่ง แล้วกว่าจะกลับถึงบ้านก็มืด ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย...หากเรื่องแบบนี้กำลังเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคุณล่ะก็ ไม่ต้องห่วง ปล่อยเอาไว้สักพัก "อ้วน" แน่นอน

แล้วจะทำอย่างไรถึงไม่ให้อ้วน?
บางคนอาจจะใช้วิธีออกกำลังกายบ่อยๆ...อันนี้เห็นด้วยว่าทำให้สุขภาพดี แต่ถาจะลดอ้วนด้วยวิธีนี้ คุณจะต้องออกกำลังกายทุกวัน ห้ามขาด เพราะถ้าขาด...หน้าคุณก็จะกลับมาบวมเหมือนเดิมทันที

อีกวิธีที่น่าสนใจนั่นคือ "ปรับพฤติกรรมการกิน"
ว่าป๊ปก็ขอนำเสนอคลิปวิดีโอของรายการ Good Shape Save Cost @ SpokeDark.tv กันเสียหน่อย (ไม่ค่อยจะขี้เกียจเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ)

ใครไม่เห็นด้วยอันนี้เราไม่รู้นะ
แต่ก่อนหน้าที่จะเจอรายการนี้....ย้อนไปสักสองปีก่อนได้ละ
เราลดน้ำหนักสำเร็จด้วยการคุมอาหารแบบไม่ได้ตั้งใจ
เหตุมาจากอยู่กับน้องสาวที่บ้าน แล้วคุณแม่ก็มักจะว่าเราตลอดว่ากินเยอะ ทำไมไม่กินให้เหมือนน้องบ้าง...คนอะไรกินข้าวเท่าแมวดม มันจะไปอยู่ได้เร้อ? แต่เราก็ตัดสินใจกินแบบน้อง ระยะเวลาตอนนั้นแค่เดือนเดียว น้ำหนักเราลดลงไปได้ 8 กิโล (มันยอดมากเลยจอร์จ)

แต่การลดน้ำหนักแบบคุมอาหารเนี่ย...บอกจากใจจริงๆ ว่าไม่เหมาะกับคนที่ทำงานแล้วต้องใช้แรงตลอดเวลา เพราะว่าพลังงานที่ได้รับเข้าไปมันน้อย พลังงานที่จะเอาไปใช้ออกแรงทำงานก็น้อยตามไปด้วย อย่างตอนนี้...ไร้ซึ่งพละกำลังกายในการนวดไหล่ให้คุณพ่อคุณแม่ เหตุก็เพราะกินน้อยเนี่ยแหละ เพราะงั้น...ห้ามออกกำลังกายหักโหมด้วย (ในกรณีที่คุณตัดสินใจคุมอาหารอย่างฮาร์ดคอร์แบบคุณจอห์นเขาน่ะจ๊ะ)

ปล.เริ่มต้นลดน้ำหนักจริงจังเมื่อวันที่ 1 เดือนนี้...ไว้เรามาดูกันว่าสิ้นเดือนจะลดกันไปได้กี่กิโล
ปล2. การเริ่มต้นควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่อย่างนั้นตัวคุณก็จะผลัดวันไปเรื่องๆ แล้วเมื่อไรกันล่ะทีคุณจะก้าวไปถึงความสำเร็จที่รอคุณอยู่ :D

Tuesday, September 4, 2012

Linux Mint กับ Windows

รอดมาได้แล้วววววววว กับ Linux Mint (Mate) ในวันนี้
กว่าจะติดตั้งได้ถูกต้อง ไฉไล แบบไม่กระทบพี่กระทบน้องกับ Windows 7 ที่ลงไว้ก่อนแล้วเนี่ย...เล่นเอางงใช้ได้เลยทีเดียวเชียว

เอาล่ะ อยากรู้ไหมว่าทำยังไง?
ถ้าอยากรู้ก็อ่านต่อนะจ๊ะ :D

เริ่มด้วยสิ่งที่ต้องมีอย่างแรกเลยคือ "พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิส"
เมื่อมีพื้นที่แล้ว เราก็จัดการแบ่งมันด้วย MiniTool Partition Wizard Home Edition (ไม่แน่ใจว่าต้อง create ไหมนะ แต่ส่วนตัวเราไม่ได้สร้างไดร์ฟใหม่แต่อย่างใด)
เสร็จแล้วเราก็ไปทำการดาวน์โหลดไฟล์ Linux Mint ในเวอร์ชั่นที่ต้องการมา (ณ จุดจุดนี้ใช้ Mint 13 Maya (Mate) จ๊ะ)
ดาวน์โหลดเรียบร้อยก็เบิร์นลงแผ่นกันเลย หรือจะติดตั้งผ่าน usb โดยใช้ UNetbootin ช่วยในการทำ boot usb ก็ได้นะจ๊ะ
เสร็จแล้วก็รีสตาร์ทเครื่องคอม บูทแผ่น หรือ usb ที่มี Mint น้อยๆ ไว้
ขั้นตอนการลงอย่างละเอียดสามารถติดตามได้ที่ how to: ติดตั้ง linux ด้วยตนเอง แต่ที่เราติดน่ะ จะมีแตกต่างกันหน่อยตรงนี้


จากในรูปจะเห็นว่าเลือกอันสุดท้าย....แต่เราเลือกอันแรก ซึ่งมันก็เวิร์ค ทำงานได้ดี และไม่มีปัญหาไดร์ฟเวอร์หายด้วย :D

หลักๆ ก็เท่านี้แหละ...(ไม่ค่อยจะขี้เกียจเล้ยยยยย ลิงค์ไปบล็อกคนอื่นที่เขาทำไว้แล้วซะงั้นเลยนะ ฮ่าๆๆๆ)

เกือบลืมไป

อ่านก่อน

หลังจากที่ติดตั้งแล้ว ก่อนรีสตาร์ทเครื่องให้พิมพ์คำสั่งนี้ใน terminal ด้วยนะจ๊ะ


sudo mount /dev/sdXY /mnt
sudo grub-install --root-directory=/mnt/ /dev/sdX


(อย่าบ้าจี้ใส่ XY ตามล่ะ ตัว X คือตัวอักษร และตัว Y คือตัวเลข อย่างเช่น 


ในภาพจะเห็นไดร์ฟที่มี File System เป็น ext4 นั่นคือพื้นทีที่เราทำการติดตั้งลินุกซ์ลงไป จะได้เป็น

sudo mount /dev/sda7 /mnt
sudo grub-install --root-directory=/mnt/ /dev/sda

อาจจะมี error อะไรขึ้นมาแต่ไม่ต้องสนใจ...มันทำงานได้ปกติ

แล้วทีนี้ก็สงสัยละสิว่าทำทำไม? ไม่ทำได้หรือเปล่า?
เพราะเจอมาเองกับตัว...คือพอรีสตาร์ทแล้ว grub หายจ๊ะ บูทไม่ขึ้น
ทีนี้ก็เลยแก้มันเสียก่อนจะบูทเครื่องใหม่เสียเลย


และหลังจากติดตั้ง เหมือนเดิม เราก็ทำตามแบบนี้

เป็นอันจบพิธี อิอิ
นอนดีกว่า ขอราตรีสวัสด์ ขอให้หลับฝันดีกันนะจ๊ะ

ไดอารี่...เหรอ?

ไดอารี่...ความหมายโดยตรงแล้วก็คือ "บันทึกประจำวัน"

...แรกๆ ก็เข้าใจว่าเป็นอะไรที่เราจะต้องจด ต้องขีด ต้องเขียนมันทุกวันล่ะนะ...
...แน่นอนว่ามีความพยายามหลายต่อหลายครั้งในการจะเขียนไดอารี่ให้ได้เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกับหลายๆ คนที่มีไดอารี่อยู่...และเป็นที่แน่นอนว่าไม่เคยทำได้สำเร็จเลยสักที เพราะโดยส่วนตัวแล้วจะเรียบเรียง หรือเล่าเรื่องอะไรให้ได้ปะติดปะต่อ เป็นลำดับเหตุการณ์เนี่ยก็ทำได้หรอกนะ แต่ต้องเป็นในช่วงเวลาวันนั้นเลย หากพ้นเวลาวันนั้นไปแล้ว (ง่ายๆ ว่านอนหลับพักผ่อนในยามค่ำคืนแสนสุขไปแล้ว) ก็จะลำดับไม่ค่อยจะถูกละว่าเมื่อวานนี้อะไรเกิดก่อนเกิดหลังยังไง (สงสัยว่าความจำจะละลายหายไปกับน้ำลายบูดนะเนี่ยเรา)

ตอนนี้เลยเขียนบันทึกขึ้นมาเล่มนึง...
แต่จะเรียกว่าเป็นไดอารี่ก็คงไม่ได้เสียล่ะมั้ง เพราะสิ่งที่เขียนส่วนใหญ่ก็เป็นการเล่าเรื่อง หรือไม่ก็บรรยายสภาพอารมณ์ของแต่ละวัน (ที่นึกอยากจะจด) เสียมากกว่า
...เหมือนกับการอัพบล็อคนี่เลยนะเนี่ย...
...ตอนไหนนึกอยากจะอัพ ก็อัพ...
...พอไม่อัพก็หายไปเฉยๆ (น่าตีจริงๆ เลยเน๊อะ)...

จะว่ายังไงดีล่ะ...บางวันมันเหนื่อยเกินไปล่ะมั้งนะ
...นอนหลับก็สนิทดีหรอกนะ แต่ว่าที่นอนไม่เหมือนกับนอนที่บ้าน (สบ๊าย สบาย)
...ไหนจะแสงในตอนเช้า และการมีรูมเมทอีก...(ก่อนหน้านี้อยู่หอ ก็อยู่คนเดียว มีกระต่ายสี่ตัวคอยปลุกตอนเช้าเท่านั้นแหละนะ) คงไม่ชินกับการอยู่ห้องหลายคนเสียล่ะมั้งนะเรา...เอาน่ะ คนเราเป็นสัตว์สังคมที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ แต่อาจจะช้าหน่อยในกรณีนี้น่ะนะ

ก่อนอื่นที่จะต้องปรับเลยคงเป็นเรื่องการกิน
ชอบกิน "ข้าว" แน่นอนว่ากินข้าวมากก็จะ "อ้วน"
แล้วทีนี้เมื่อไรจะผอมละเนี่ย?? (วิธีการตอนนี้ก็อาศัยซิทอัพทุกวัน ให้จุกท้อง...โดยเฉพาะมื้อตอนเย็น จัดไปสักสามสิบทีก่อนทานอาหาร เราจะได้รู้สึก "จุก")
 ...เมื่อจัดการเรื่องกินได้ก็ต้องออกกำลังกาย...
...สวนสำหรับวิ่งออกกำลังกายที่ใกล้ๆ กับหอพักเนี่ย อยากจะบอกว่าวิ่งครบรอบนึงแบบไม่หยุดพักเลยจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เพราะมันใหญ่ม๊ากกกกกก ไหนจะสไตล์การวิ่งที่ต้องหลบทั้งคน รถ และบรรดาหมาๆ อีกต่างหาก (วิ่งๆ หยุดๆ ตะคริวกินขากับเวลาหลบเนี่ยแหละ)
ณ สวนแห่งนี้...สาวก็เยอะ หนุ่มก็แยะ คนแก่ก็ตรึม เห็นได้ชัดว่าเขาใส่ใจสุขภาพกันนะ...แต่ทำไมมันไม่มีฟิตเนสมั่งนะเนี่ย เฮ้อออออ

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างมันต้องมีอุปสรรค!!
สำหรับการออกไปวิ่งนอกบ้าน อุปสรรคที่ว่าก็คือ "ฝน" นั่นเอง
แล้วหน้าร้อน ณ จุดจุดนี้...ว่ากันว่าฝนตก "บ่อย" เสียด้วยน่ะสิเออ
...วันนี้เองฝนก็มีท่าทีว่าจะตกเช่นกัน...
...ทำให้สภาพอากาศตอนนี้น่านอนมากๆ เลยล่ะ...
แน่นอน!! อย่าได้รอช้า...ขอตัวนอนก่อนสักงีบแล้วกันนะ อิอิ ^^