Monday, February 18, 2013

WordPress

วันนี้...ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียน ด้วยบรรยากาศตึงเครียดของการพรีเซ็นต์งานและการคอมเมนท์ของเหล่าอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อกลบความตื่นเต้นที่ต้องนั่งรอโดนเชือด เอ๊ย โดนเรียกตัวไปทำการพรีเซ็นต์งาน เราก็เปิด gmail แล้วพบว่ามีเมล์ของ WordPress เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด (นี่ช้านไปสมัครรับข่าวสารไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยได้ใช้เรยชิมิ๊?) ว่าแล้วก็นึกสงสัย WordPress คืออะไรกันแน่? แล้วทำไมเปิดละเจอ wordpress.com กับ wordpress.org ?? แล้วเราก็พบว่ามันคือ....!!!

WordPress เป็น open source web software ที่สร้างขึ้นโดย Matt Mullenweg และ Mike Little ในปี 2003
เราสามารถติดตั้ง WordPress บนเว็บ server เพื่อสร้างเว็บไซต์, blog หรือ community เมื่อเริ่มแรก WordPress เป็นเครื่องมือไว้สำหรับสร้าง blog จากนั้นเมื่อได้รับการพัฒนามาเรื่อย ๆ มา ทำให้ WordPress มีความสามารถสร้างเว็บไซต์ หรือ เว็บ community ได้ โดย WordPress มีระบบจัดการบทความ หรือ Content Management System (CMS) ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

แล้วทำไมมี wordpress.com กับ wordpress.org ล่ะ?

WordPress.com WordPress.org
ติดตั้งง่าย ต้องบอกว่าแค่สมัครไม่ต้องติดตั้ง เพราะเมื่อสมัครแล้วทำตามกระบวนการเสร็จแล้ว เราก็จะได้เว็บตามที่เราต้องการ ภายใต้ url xxxxx.wordpress.com แล้ว อิสระในการใช้งาน เนื่องจากเราโหลดมาติดตั้งที่ server ของเราเอง ดังนั้นเราสามารถปรับแต่งได้ตามใจเรามากกว่าใช้งานบน wordpress.com
ไม่ต้องเสียค่า hosting เพราะข้อมูลต่าง ๆ จะอยู่บน server ของ wordpress.com ปรับแต่ง theme ของเราได้ตามสะดวก และสามารถ download theme มาติดตั้งเองได้ โดยไม่ต้องเลือกเฉพาะที่ทาง wordpress.com จำกัดไว้ให้
มีการอัพเดต wordpress ให้อยู่เสมอเมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมา ติดตั้ง plugin ได้ตามใจเรา อยากได้ตัวไหน download มาติดตั้งได้เลย
มี plugin ที่จำเป็นสำหรับเว็บทั่ว ๆ ไปติดตั้งไว้ให้แล้ว โดยเป็นทาง wordpress.com เลือกไว้ให้เราใช้งาน ปรับแต่ง code ได้ตามที่เราต้องการ และทาง wordpress.org เองก็มีคู่มือไว้รองรับอยู่แล้ว
แน่นอนว่า ฟรี จะเสียค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อเราต้องการอัพเกรดเพื่อให้เราฟังก์ชั่นที่มากขึ้นจากที่ทาง wordpress.com เตรียมไว้ให้ เลือก hosting ที่เราต้องการ ในราคาที่เราต้องการได้ ไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงที่เดียว

หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับ WordPress จะทำให้เข้าใจความหมายและความแตกต่างของ WordPress ได้ดีขึ้นนะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก WordPress.in.th เว็บสำหรับคนใช้ WordPress มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

Saturday, February 16, 2013

"การเรียน" กับ "ความรัก"

งานเยอะ งานแยะ งานทำไม่ทัน ฯลฯ แล้วยังต้องนั่งทำงานดึกๆ อีกด้วยแล้วล่ะก็...มันก็ต้องมีอาการเพ้อเจ้อ ไร้สาระกันบ้างแหละนะ

มีรักในวัยเรียน เหมือนจุดเที่ยนกลางสายฝน
ไม่เป็นไรเราไม่สน เรากลางร่มแล้วจุดเที่ยน

หลายๆ คนคงเคยโดนพ่อแม่ หรือว่าผู้ปกครองบอกกล่าวตักเตือนว่า
......"ยังเด็กไป ไม่ควรมีแฟน"......
โดยส่วนตัวแ้ล้วก็เห็นด้วยกับคำตักเตือนด้วยความเป็นห่วงเป็นใยนี้
เพราะด้วยวุฒิภาวะที่ยังเด็กเกินไป อาจจะทำให้มีความสุขุมรอบคอบในการตัดสินใจที่น้อย
และด้วยความเป็นเด็ก ทำให้เรื่องของ "ความรับผิดชอบ" อาจจะยังไม่เพียงพอ

แต่หากมองในทางกลับกันแล้ว...
ก็มีเด็กๆ หลายคนที่ปรับปรุงตัว และเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้เพราะการมีแฟน
นั่นเพราะ "วัยรุ่น" เป็นช่วงวุฒิภาวะที่เด็กๆ จะรับฟังความคิดเห็นของ "เพื่อน" มากกว่าพ่อแม่
แต่จำนวนเปอร์เซ็นของปรากฎการณ์ดังกล่าวก็ค่อนข้างจะมีน้อย

จะว่าไปก็เปรียบได้กับ "การเล่นเกม"
พ่อแม่ ผู้ปกครอง และคุณครูส่วนใหญ่ก็คงจะมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี
ที่เด็กๆ จะ "เล่น" มากกว่า "เรียน"
เรามักจะมองว่าเด็กติดเกมมีสมาธิสั้น หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเป็นเด็กที่มีสมาธิเป็นยอดเลยแหละ เพราะถ้าหากสมาธิสั้นจริง พวกเขาคงจดจ่ออยู่หน้าจอเพื่อเล่นเกมไม่ได้หรอก
(แต่เล่นเกมมากๆ ระวังสายตาเสียนะจ๊ะ)

แล้ว "เล่นเกม" กับ "มีแฟน" มันเหมือนกันตรงไหนล่ะ?
เกมเองก็แยกออกเป็นหลายๆ แบบ เช่น "เกมภาษา" ที่จะต้องตีความและเข้าใจเนื้อเรื่องเพื่อที่จะดำเนินเกมต่อไปเรื่อยได้ "เกมต่อสู้" ถ้าเป็นแบบที่เล่นกับจอยสติ๊กก็ต้องใช้ทักษะในการจำ หรือว่าเกมจำพวก Dota/HON นี่ก็ต้องอาศัยความจำในการผสมของและคีย์ลัดต่างๆ ของตัวละคร และเทคนิคการเล่น (เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมนี่แสดงว่าต้องมีความจำเป็นเลิศมากเลยนะ ของเป็นร้อยๆ อย่าง แล้วไหนจะสูตรผสม การกดใช้ ฯลฯ) เป็นต้น

แฟนเองก็มีทั้งที่คบกันแล้วรุ่ง กับคบกันแล้วรุ่งริ่งดิ่งลงเหว
เลือกคบใครสักคนเป็นแฟน ก็เหมือนกับการเลือกเกมที่จะเล่น หากแต่มันต่างกันตรงที่เกมเริ่มเล่นใหม่ได้ไม่ยาก แต่เลิกคบใครสักคนแล้วหาใหม่มันต้องมีเงื่อนไขหลากหลายประการนัก ไม่ใช่แค่กดปุ่มลบตัวละคร สร้างใหม่แล้วก็จะกลับไปได้

เพราะงั้นแล้ว...
เด็กๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะมีแฟนนะ "แต่ต้องอยู่ในสายตาของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ดี"
ทำไมต้องมี "ที่ดี" ด้วย?
...ถึงไม่อยากจะยอมรับ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเยอะนะที่พ่อแม่ ผู้ปกครองใช้บุตรหลานในการหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อใช้รีดไถเงินจากคนที่บุตรหลานคบหาอยู่ หรือไม่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้อบรมบุตรหลานอย่างถูกต้อง (ยกหางตลอดเวลา ถึงผิดก็ยังส่งเสริมต่อไป ไม่ขัดใจเลยแม้แต่สักระนิด สักกระจิ๊ด สักกระจึ๋งนึง)...

เอาล่ะ...นอนกันดีกว่า
เพราะ "ยิ่งดึก ยิ่งหิว"
เดี๋ยวจะห้ามใจไม่ไหว ลุกขึ้นไปหาอะไรกินอีก เราต้องชิงตัดหน้าโดดลงที่นอนเสียก่อน
ฝันดีนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ

ปล. ทั้งหมดนี้มิได้จะกล่าวว่า หรือระบุถึงบุคคลใด หากแต่เป็นความคิดที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เห็น ได้ฟัง และได้ประสบเหตุการณ์หลายๆ อย่างมาตลอดช่วงเด็ก วัยรุ่น และวัยที่เริ่มจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว