Friday, March 30, 2012

ถ้าหากฉัน มีเวทย์มนต์ เป็นแม่มดมีฤทธิ์เหมือนในนิยาย
จะเสกเธอ ให้สนใจ ให้เธอยอมเอาใจทั้งใจให้ฉัน

ถ้าหากเธอ ยังดื้อดึง ทำขัดขืนฉันคงต้องใช้กำลัง
จะเสกเธอ ให้เชื่อฟัง ให้บอกฉันดังๆว่ารักซักหน่อย

หากยอมเป็นคู่ใจ เอาอะไรก็ว่ามา
ขี่ไม้กวาดไปหา พาบินไปด้วยกัน
ไกวเปลให้ทุกคืน จะเกาคางให้ทุกวัน
อย่าห่วงเลยตัวฉัน จะดูแลเธอเอง

ถ้าหากฉัน มีเวทย์มนต์ เป็นแม่มดมีฤทธิ์เหมือนในนิยาย
จะเสกเธอ ให้สนใจ ให้เธอยอมเอาใจทั้งใจให้ฉัน

ถ้าหากเธอ ยังดื้อดึง ทำขัดขืนฉันคงต้องใช้กำลัง
จะเสกเธอ ให้เชื่อฟัง ให้บอกฉันดังๆว่ารักซักหน่อย

หากยอมเป็นคู่ใจ เอาอะไรก็ว่ามา
ขี่ไม้กวาดไปหา พาบินไปด้วยกัน
ไกวเปลให้ทุกคืน จะเกาคางให้ทุกวัน
อย่าห่วงเลยตัวฉัน จะดูแลเธอเอง

หากยอมเป็นคู่ใจ เอาอะไรก็ว่ามา
ขี่ไม้กวาดไปหา พาบินไปด้วยกัน
ไกวเปลให้ทุกคืน จะเกาคางให้ทุกวัน
อย่าห่วงเลยตัวฉัน จะดูแลเธอเอง

หากยอมเป็นคู่ใจ เอาอะไรก็ว่ามา
ขี่ไม้กวาดไปหา พาบินไปด้วยกัน
ไกวเปลให้ทุกคืน จะเกาคางให้ทุกวัน
อย่าห่วงเลยตัวฉัน จะดูแลเธอเอง


รื้อค้นเพลงสุดเก่ามา...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงนึกถึง
แบบว่าอยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นมาได้ตอนเข้าห้องน้ำ (เมื่อตะกี้นี้)
......
ฟิลลิ่งส่วนหนึ่งคงมากจากการดูการ์ตูนเรื่อง "แฟร์รี่เทล" มากเกินไปหน่อย
ทำยังไงได้ล่ะ ก็มัน "สนุก" มากมายเลยล่ะนะ

และเหมือนว่าจะมีงานเข้า (จนได้)
วันนี้...ต้อง allez au bar เป็นคำสั่งจากอาจารย์ (ไปบาร์)
ถ้าไม่ไปมีได้กินไข่ (0) ด้วย....เหอๆๆ

เอาล่ะ เอาเพลงเก่าๆ แอ๊บแบ๊วๆ มาแปะไว้ด้วยประการฉะนี้ ฉะนั้นแล้วต้องออกเดินทางแร้วล่ะ ไว้เจอกันอีกทีเน้อ

Monday, March 19, 2012

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน...


ฉันเฝ้าถามความสุขอยู่ที่ไหน ชายที่เขาเดินผ่านฉันเข้ามา
บอกกับฉันขอร่มสักคัน แต่ว่าที่มือเขาก็มีหนึ่งคัน
...ก็แปลกใจ ท่ามกลางหยดฝนโปรยปราย...

เขาก็ถามฉันว่าอยากสุขไหม ลองหุบร่มในมือสักพักนึง
...และเงยหน้ามองวันเวลา มองหยดน้ำที่มันกระทบตา...
ยังเปียกอยู่ใช่ไหม หรือไม่มีฝน

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

ยิ้มฉันยิ้มมากกว่าทุกครั้ง สุขที่ฉันตามหามาแสนนาน
...อยู่ตรงนี้ แค่เพียงเข้าใจ...
อย่าไปยึดถือมันและกอดไว้ ก็แค่ร่มเท่านั้น เท่านั้น

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

ฉันเห็นเธอถือร่มผ่านมา
เต็มไปด้วยร่องรอย และคราบน้ำตา
ฉันได้เห็นแล้วมันปวดใจ
ไม่ใช่เพียงแค่เธอที่ทุกข์...ฉันก็เป็นเหมือนเธอ
เธอได้ยินไหม อยากขอให้เธอลองโยนร่มที่ถือเอา­ไว้หนัก โยนมันออกไป

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน
อย่าไปยึ­ด อย่าไปถือ อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ
ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร
จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน
...ก็อยู่ที่จะมอง...

เหมือนตามที่เพลงเขาร้องไว้...
บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน
อย่าไปยึ­ด อย่าไปถือ อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ
ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร
จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน
...ก็อยู่ที่จะมอง...

...ที่สุดแล้ว...
ตัวเราจะสุข หรือจะทุกข์ก็อยู่ที่มุมมองของเรา
อยู่ที่ใจของเราจะคิด จะเลือกรู้สึก...

แต่ว่า ณ จุดๆ นี้
อยากจะบอกว่าไม่ค่อยสุข แต่ก็ไม่ทุกข์เสียทีเดียว
มันอาจจะลำบากที่จะอยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง
...แต่ก็ทำให้เรียนรู้ว่า "เราอยู่ได้"...
...ทำให้เข้าใจถึงเวลาที่มีค่าของสิ่งที่เรียกว่า "ความสุข"...
...ทำให้นึกถึง "ความอบอุ่น" ของนิยามคำว่า "ครอบครัว"...
...ทำให้เพ้อๆ ละเมอ ถึงใครบางคนที่ "รัก"...
...ทำให้รู้ว่า "ตอนนี้" อะไรคือ "สิ่งที่สำคัญ" และควรที่จะ "รักษา" มันไว้ให้ดี...